คู่มือการปลูกเมล่อน..ฉบับง่ายมือใหม่ก็ปลูกได้
เมล่อนเป็นพืชอีกชนิหนึ่งที่นิยมปลูกอย่างมาก ซึ่งสามารถปลูกในระบบไฮโดรโปรนิกส์ได้หลายระบบ ทั้งระบบ NFT DFT DRFT รวมทั้งการปลูกในวัสดุปลูก ซึ่งในครั้งนี้จะมาพูดถึงเกร็ดความรู้ในการดูแลเมล่อนในช่วงต่างๆ ตั้งแต่การเพาะเมล็ดจนถึงการเก็บลูก
เพื่อให้ได้ลูกใหญ่และมีรสชาติหวาน โดยควบคุมค่าต่างๆให้ได้มาตรฐาน ค่าEC :2.0-2.5 , ค่าpH: 6.0-6.8 , อุณหภูมิ: 25- 35 องศาเซลเซียส
การเพาะกล้า
แช่เมล็ดในน้ำอุ่นเพื่อกระตุ้นการงอกของเมล็ด 4-6 ชั่วโมง จากนั้นนำมาห่อด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ 1คืน เมื่อเมล็ดมีตุ่มงอก ให้นำใส่วัสดุปลูก นำไปตั้งไว้ในที่ที่มีแสงแดด เมล็ดจะเริ่มงอกใบเลี้ยง เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกใบจริง 1-2ใบ สามารถย้ายละบบปลูกได้
การดูแลเมล่อนในแต่ละช่วง
ช่วงบำรุงต้น
ในช่วงบำรุงต้น นอกจากจะให้ปุ๋ยทางรากแล้ว สามารถเสริมปุ๋ยทางใบเช่นเอ็นวัน(16-3-3) เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตได้ เมื่อต้นเมล่อนสูงขึ้นให้พันยอดกับเชือก หรือค้างเพื่อพยุงต้น ตัดแขนงที่ยาวออกมาตามข้อที่1-8 ทิ้ง ตั้งแต่ข้อที่9-12ให้เก็บไว้เพื่อให้ติดลูก
การผสมเกษร
ต้นเมล่อนที่สมบูรณ์โตพร้อมที่จะผสมจะมีดอกออกมาพร้อมที่จะผสม ซึ่งในช่วงนี้สามารถฉีดพ่นเควัน (3-12-15) เพื่อบำรุงดอกได้ โดยเมล่อนจะมีดอก2แบบ ดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย ซึ่งจะต้องมีการช่วยผสเกสร ในการสังเกตง่ายๆคือดอกตัวผู้จะขึ้นตามข้อส่วนของฐานดอกไม่มีกระเปราะ ส่วนดอกตัวเมียจะมีกระเปราะตรงฐานดอก ในการผสมเกสรจะต้องเอาละอองเกสรตัวผู้ไปผสมในดอกตัวเมียโดยใช้พู่กันในการช่วยผสมหรือนำเกสรดอกตัวผู้จิ้มเกสรดอกตัวเมียโดยตรงก็ได้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการผสมเกสรคือในช่วงเช้า เนื่องจากดอกจะบานเริ่มบานในช่วงเช้า เกสรจะมีความแข็งแรง ทำให้เมื่อผสมเกสรจะมีโอกาสติดลูกสูง และควรผสมในวันที่ดอกบานทันทีเพราะดอกตัวผู้จะบานแค่หนึ่งวัน
ช่วงบำรุงผล
เมื่อเมล่อนติดลูก ให้เก็บลูกไว้ 1 ลูกต่อต้น โดยเลือกลูกที่สมบูรณ์ที่สุด และจะต้องยึดลูกกับค้าง หรือผูกเชือกห้อยลูกเพื่อพยุงลูก สามารถฉีดพ่นอาหารเสริมพืชเช่น ไฮพาวเวอร์แคลซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แคลเชียมโบรอนชนิดเข้มข้น เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตได้ ห้ามให้เมล่อนขาดน้ำเด็ดขาด
ช่วงขยายผล
หลังจากติดลูกประมาณ 30 วันลูกเมล่อนเริ่มแตกลายให้ลดปริมาณการให้น้ำลง 1ใน 3 ของการให้ปกติ หากปริมาณน้ำมากเกินไปจะทำให้ลูกแตก และต้องให้ปุ๋ยในปริมาณที่เข้มข้นขึ้น ควรเสริมการฉีดพ่นไฮพาวเวอร์แคล ร่วมกับซุเปเปอร์ไซส์ เพื่อป้องกันการแตกของเปลือกเมล่อนและขยายขนาดผล การทำหวาน แนะนำใช้ปุ๋ยเกล็ดสูตร 0-0-50 ฉีดพ่นในอัตรา 1กรัมต่อน้ำ1 ลิตร และลดปริมาณการให้น้ำโดยค่อยๆลดลง หลังจากติดลูก35วัน จะค่อยๆลดลง ก่อนเก็บเกี่ยว3วันจะลดการให้น้ำทางราก และที่สำคัญใบจะต้องสมบูรณ์ จะทำให้การทำหวานประสบผลสำเร็จ
การสุกของเมล่อนจะขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ ให้ยึดตามที่บริษัทเมล็ดพันธุ์นั้นๆแนะนำ แต่นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมที่ส่งผลให้การสุกของเมล่อเปลี่ยนไป อย่างในช่วงหน้าฝนที่แสงน้อยการสุกของเมล่อนจะช้าลง
ดังนั้นจึงต้องพิจารณาลักษณะกายภาพของเมล่อนหลายๆอย่างประกอบดังนี้
- ใบที่ใกล้ลูกมากที่สุดจะโทรมหรือเหี่ยว
- สังเกตุรอยบเวณก้นผลหากมีรอยชัดขึ้น เมื่อกดลงไปแล้วยุบเล็กน้อย
- มีรอยแตกบริเวณขั้วจะแตกขึ้นไปยังก้าน